กรณีเมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทองควบคุมตัวนายธนวัฒน์ แสงเทียน อายุ 42 ปี ซึ่งก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราหลานสาววัย 12 ปี ต่อหน้ายายและน้อง บริเวณบ้านเช่าใน ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทองและพยายามอุ้มลุกวัย 1 ขวบหลบหนี แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวไว้ได้ ก่อนนำมาสอบสวนที่ สภ.เมืองอ่างทอง
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าวอีกครั้งพบกับ นางนิตยา อายุ 34 ปี พนักงานโรงานกล่องไปรษณีย์ กล่องพัสดุ ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ก่อเหตุ โดยนางนิตยาเล่าให้ฟังว่า พี่สาวของตนกลับมาจากทำธุระ และเห็นสามีของตนกลังทำอนาจารหลานสาว จึงรีบแจ้งตำรวจ ซึ่งขณะที่รอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง นายธนวัฒน์ได้พยายามอุ้มลุกของตนเองหลบหนี แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตามไปจับกุมตัวมาดำเนินคดี ซึ่งหลังเกิดเหตุทางสหวิชาชีพและเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำเด็กหญิงวัย 12 ปี และญาติ รวมถึงสอบเค้นนายธนวัฒน์
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทองสอบเค้นนายธนวัฒน์ ตลอดทั้งวันจนสุดท้ายก็ยอมเปิดปากรับสารภาพ แต่บอกว่าเพิ่งล่วงละเมิดทางเพศหลานสาวเพียงครั้งเดียว เนื่องจากตนลงโทษตีที่หลานสาวที่ไม่ยอมทำงาน แต่มือไปสัมผัสโดนอวัยวะเพศจนเกิดอารมณ์ จึงลงมือกระทำชำเราน้อง แต่ยังไม่ทันสำเร็จความใคร่ พอดีป้าของน้องกลับมาเห็นก่อน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสอบปากคำไว้เป็นหลักฐานก่อน
ขณะที่ พ.ต.อ.นัฎฐพงษ์ ศรีเพ็ญประภา ผกก.สภ.เมืองอ่างทองเปิดเผยว่า คดีนี้ทางตำรวจไม่มีหนักใจ เนื่องจากพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เพียงพอที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ ยิ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพก็ยิ่งทำให้สามารถดำเนินคดีได้ทันที แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่ากระทำเพียงครั้งเดียว
เบื้องต้นเตรียมสอบปากคำเพิ่มเติม ในส่วนของการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้นตอนนี้พยานหลักฐานเพียงพอจึงไม่นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายได้