นักโทษชายเรือนจำชั่วคราวเขาไม้แก้ว ระยอง ถูกตามไล่ล่าจับกุมได้ในที่สุด หลังก่อเหตุแหกคุกข้ามวัน เปิดประวัติพบก่อเหตุสะเทือนขวัญ ถีบรถปล้น-ข่มขืนสาวในพื้นที่
(9 ต.ค.) เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา นายนัสที ทองปลาด ผบ.เรือนจำกลางระยอง ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้า กรณีเหตุนักโทษชาย กำหนดโทษ 1 ปี จากเรือนจำชั่วคราวเขาไม้แก้ว สังกัดเรือนจำกลางระยอง ได้ก่อเหตุหลบหนีการควบคุมออกไปจากเรือนจำชั่วคราวเขาไม้แก้ว เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา
โดยภายหลังจากที่ เรือนจำกลางระยอง ได้ดำเนินการออกคำสั่งชุดติดตามเจ้าหน้าที่ของเรือนจำกลางระยองประมาณ 120 นาย ประสานทางครอบครัวในการสืบหาข่าว พร้อมวางแผนติดตามตัว กระทั่งล่าสุดสามารถจับกุมผู้ต้องขังได้บริเวณสวนยางพาราชาวบ้าน บริเวณอ่างเก็บน้ำดอกกราย อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ห่างจากบ้านแม่ของนักโทษชายไปราวๆ 3 กิโลเมตร
ทั้งนี้ การติดตามตัวนักโทษชายที่หลบหนีไปรายนี้ ได้ใช้เวลาในการติดตามไป 26 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นจึงนำตัวเข้าเรือนจำกลางระยอง เพื่อตรวจสุขภาพในทันที
สำหรับนักโทษชายเสกสรร ที่หลบหนีไปครั้งนี้นั้น ผู้สื่อข่าวสืบทราบว่า ได้ถูกจับกุมถูกดำเนินคดี ฐานความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน จากเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านค่าย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ได้ร่วมกันจับกุม นายเสกสรร เพราะมีพฤติการณ์ขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตามประกบเหยื่อผู้หญิง หวังข่มขู่ชิงทรัพย์ บริเวณถนนในเขตอำเภอนิคมพัฒนา ติดต่ออำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง
โดยผู้เสียหายเป็นผู้หญิงคนดังกล่าวได้เข้าแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกตรวจ พร้อมกับสายตรวจ เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจอดอยู่ที่บริเวณหน้าร้านจำหน่ายกระดาษห่อพัสดุ กระดาษน้ำตาล ภายในตลาด กม. 12 ตำบลนิคมพัฒนา อำเภอนิคมพัฒนาจังหวัดระยอง จึงได้แสดงตัวและเข้าตรวจสอบพร้อมกับจับกุมดำเนินคดี
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวถือเป็นคดีสะเทือนขวัญ ที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ในช่วงเวลานั้น ชายต้องสงสัยออกไล่ล่าหญิงสาวขับขี่จักรยานยนต์ในตอนกลางคืน ก่อนจะลงมือก่อเหตุถีบรถให้ล้มลงพงหญ้า หวังจะข่มขืนกระทำชำเราและปล้นทรัพย์ ทำให้มีการแชร์เตือนภัยเรื่องนี้ออกไปเป็นวงกว้าง
อย่างไรก็ตาม นักโทษชายเสกสรร ได้รับสารภาพว่าก่อเหตุจริงในการใช้อาวุธปืนปลอม-ข่มขืนใจ แต่ในกรณีดังกล่าวที่กล่าวมา นักโทษชายเสกสรรได้ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่ใช่บุคคลดังกล่าว เมื่อตำรวจสอบสวนแล้ว จึงมีความผิด ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ซึ่งศาลจังหวัดระยองได้ตัดสินโทษจำคุก 1 ปี
หลังจากนั้นจึงได้นำตัวมาคุมขังที่เรือนจำกลางระยอง ผ่านมาแล้ว 7 เดือน ก่อนจะถูกย้ายมายังเรือนจำชั่วคราว เพื่อรับโทษที่เหลืออีก 5 เดือน และปรับฟื้นฟูสภาพจิตใจ รวมทั้งฝึกอาชีพก่อนที่จะพ้นโทษสู่สังคม แต่มาก่อเหตุหลบหนีเช่นนี้ไป