ตามล่าหนุ่มขับกระบะชนพ่อเฒ่าวัย 75 ตายคาที่ ทิ้งรถเอาปืนจี้ชาวบ้านชิง จยย. หลบหนี

ตามล่าหนุ่มขับกระบะชนพ่อเฒ่าวัย 75 ตายคาที ทิ้งรถเอาปืนจี้ชาวบ้านชิง จยย. หลบหนี

(23 ก.ย.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ เมื่อเวลา 15.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุเตย อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนกับรถจักรยานยนต์ พ่วงข้าง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบนเส้นทางหลวงหมายเลข 21 ถนนสายสระบุรี-หล่มสัก ฝั่งขาล่องมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ช่วงระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 111-112 บริเวณหน้า หจก.แก้วจำลอง รับซื้อของเก่า อยู่ตรงข้ามกับโรงงานผลิต ซองคุกกี้แถบกาว ถุงแถบกาวคุกกี้ หมู่ 3 ต.พุขาม อ.วิเชียรบุรี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลวิเชียรบุรี และอาสาสมัครกู้ภัยร่วมกตัญญูพุเตย

โดยในที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 1ฒพ-8364 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ที่ข้างทาง สภาพด้านหน้าฝั่งซ้ายยุบ หม้อน้ำแตก ไม่สามารถขับต่อไปได้ และที่ด้านหน้ารถ มีรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพเก่า สีแดง สภาพถูกชนพังเสียหายยับเยิน พบศพผู้เสียชีวิตนอนอยู่ข้างทาง ทราบชื่อต่อมาว่าคือ นายบัวคำ อายุ 75 ปี

จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ขณะที่นายบัวคำ บุ้งทอง ผู้เสียชีวิต กำลังขับรถจักรยานยนต์กลับมาจากนา เพื่อจะกลับบ้าน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้ถูกรถยนต์กระบะคันดังกล่าวพุ่งชนท้ายเสียงดังสนั่น จนผู้คนแถวนั้นต่างวิ่งออกมาดู และในช่วงชุลมุนผู้ก่อเหตุก็วิ่งไปใช้อาวุธปืน จี้ชิงรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น สกรุ๊ปปี้ ไอ สีแดง ของชาวบ้านที่ขับผ่านมา ขับหลบหนีสวนไปทางตลาดตำบลพุเตย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการตรวจค้นที่ภายในรถยนต์กระบะของผู้ก่อเหตุ พบอาวุธปืนยาว จำนวน 2 กระบอก และลูกกระสุนปืนประมาณ 30 นัด อยู่ภายในรถ คาดว่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ก่อเหตุกลัวความผิด จึงได้รีบหลบหนีไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุเตย ได้กระจายกำลังกันสกัดตามเส้นทางต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด ทางเพจเฟสบุ๊ค กู้ชีพ อบต.พุขาม ได้ออกมาเผยแพร่รูปภาพคนขับรถยนต์กระบะ คันดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี โดยเป็นชาย อายุประมาณ 40 ปี ผมหยิกยาว ประมาณไหล่ ใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว สะบายกระเป๋าข้าง มีรอยสักที่แขนซ้าย ผู้ใดพบเบาะแส สามารถแจ้งได้ที่สถานีตำรวจใกล้เคียง หรือ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง