รวบ”ปิง แวร์วูฟ” หลังออกป่วนทำร้ายวัยรุ่น พบเพียงกระสุน ไร้อาวุธปืน

ตำรวจสืบสวนแม่จัน ติดตามจับกุม”ปิง แวร์วูฟ” หลังก่อเหตุร่วมกับพวก พกอาวุธมีดออกทำร้ายกลุ่มวัยรุ่น หลายพื้นที่ใน อ.แม่จัน ซ้ำยังโพสต์เฟซบุ๊กขู่ “ลูกปืนไม่มีตา” ค้นบ้านเจอลูกปืน แต่ไม่มีปืน เกาะติดข่าวสาร ตำรวจสืบสวนแม่จัน ติดตามจับกุม”ปิง แวร์วูฟ” หลังก่อเหตุร่วมกับพวก พกอาวุธมีดออกทำร้ายกลุ่มวัยรุ่น หลายพื้นที่ใน อ.แม่จัน ซ้ำยังโพสต์เฟซบุ๊กขู่ “ลูกปืนไม่มีตา” ค้นบ้านเจอลูกปืนเละพวก ถุงแถบกาว ถุงแพ็คเสื้อ แต่ไม่มีปืนรวบ”ปิง แวร์วูฟ” หลังออกป่วนทำร้ายวัยรุ่น พบเพียงกระสุน ไร้อาวุธปืนเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.65 พนักงานสอบสวน สภ.แม่จัน ได้นำตัว นายเฉลิมศักดิ์ หรือ “ปิง แวร์วูฟ” อายุ 28 ปี ชาว ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย มาทำการสอบปากคำ เพื่อขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุทำร้ายร่างกายจนมีผู้บาดเจ็บ โดยก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่จัน ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ทรรศ์ธนสรณ์ จุฑารัตน์ ผกก.สภ.แม่จัน และ พ.ต.ท.กุลชาติ ศักดิโยธินธาดา รอง ผกก.สส.สภ.แม่จัน พร้อมพวก ได้นำหมายจับ”ศาลจังหวัดเชียงราย” ที่ 193 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2565 ทำการจับกุม นายเฉลิมศักดิ์ หรือ”ปิง แวร์วูฟ” พร้อมของกลาง”อาวุธมีด” 1 เล่ม และกระสุนขนาด .45 จำนวน 3 นัดการจับกุมในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มวัยรุ่น ก่อเหตุใช้อาวุธมีดไล่ฟันและรุมทำร้ายคู่อริหลายครั้ง ในพื้นที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วหลายราย จึงได้ออกติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุ จนกระทั่งทราบว่าเป็นการก่อเหตุของ “แก๊ง แวร์วูฟ” โดยมีนายปิง เป็นหัวหน้าแก๊ง จะรวมกลุ่มกันตระเวณไปตามแหล่งต่างที่มีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกัน แล้วจะเข้าไปทำร้ายโดยที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน จนทำให้ประชาชนทั่วไปหวาดกลัว และมีการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กข่มขู่ ข้อความว่า “ลูกปืนบะมีตาเน้อ ขึ้นเสียงใส่ฮานิ”หลังจากทราบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นใครจึงได้ออกติดตาม และได้ขออนุมัติ”ศาลจังหวัดเชียงราย”ออกหมายจับ และได้ติดตามไปที่พักพื้นที่หมู่ 15 ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยพบนายปิง อยู่ภายในบ้าน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงหมายจับและทำการควบคุมตัว โดยนายปิงยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ให้นำเจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในบ้าน พบ กระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 3 นัด และมีดดาบจำนวน 1 เล่ม อยู่ภายในห้องพัก โดยนายปิง รับสารภาพว่าของกลางทั้ง 2 รายการเป็นของตนเองจริง จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป