ทีมกู้ชีพเทศบาลเมืองแม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เผยคลิปภาพนาทีช่วยชีวิตนักศึกษาหนุ่มคนหนึ่ง ที่นั่งอยู่บนขอบสะพานลอย หน้ามหาวิทยาลัยแม่โจ้ เตรียมกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย โดยตำรวจ สภ.แม่โจ้ และ หน่วยกู้ชีพเทศบาลเมืองแม่โจ้ ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุใกล้โรงงานผลิต เทปใส,เทปกาว เพื่อให้การช่วยเหลือ โดยตำรวจใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 1 ชั่วโมง
แต่นักศึกษาหนุ่มคนดังกล่าว ยังไม่มีท่าทีผ่อนคลาย ไม่ยอมพูดจาระบายออกมา และ ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ ทำให้หัวหน้าชุดกู้ชีพเทศบาลเมืองแม่โจ้ ตัดสินใจแก้สถานการณ์ด้วยการปลอมตัวเป็นคนเร่ร่อน ก่อนอาศัยจังหวะเพียงเสียววินาที กระโดดคว้าตัวนักศึกษาหนุ่มลงมาจากขอบราวสะพานได้อย่างปลอดภัย ท่ามกลางความโล่งอกของเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์
หลังคลิปนี้ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ได้รับเสียงชื่นชมกับการแก้ปัญหาและความพยายามในการช่วยเหลือของหนุ่มกู้ภัยคนนี้เป็นอย่างมาก
ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (23 ธ.ค.) นายวิทวัส สินวรศรีทวีคูณ หัวหน้าชุดกู้ชีพเทศบาลเมืองแม่โจ้ ผู้ที่ปลอมตัวเป็นคนเร่ร่อนในคลิปภาพ เปิดใจเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ พบว่าน้องนักศึกษาคนดังกล่าว พบตำรวจกำลังพยายามพูดคุยเกลี้ยกล่อมอยู่ห่าง ๆ แต่ช่วงหลังพบว่านักศึกษาคนดังกล่าวเริ่มจิตตก เงียบ ไม่พูดคุยกับตำรวจอีกและไม่ยอมให้ใครเข้าไปใกล้ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะกระโดดลงไปได้ในทุกวินาที
อย่างไรก็ตามก็สังเกตเห็นว่ามีนักศึกษาบางคนเดินผ่านไปได้ โดยที่นักศึกษาหนุ่มคนดังกล่าวไม่ได้สนใจ ตนเองจึงเกิดไอเดียปลอมตัวเป็นคนเร่ร่อน โดยถอดเครื่องแบบชุดกู้ภัยออก เหลือแต่กางเกงขาสั้นและเสื้อยืด ค่อย ๆ เดินไปทำทีเก็บขยะจากถุงดำที่แขวนไว้บนทางเดินของสะพานลอย โดยให้ตำรวจพยายามชวนคุยดึงความสนใจ เมื่อเข้าใกล้มากพอจึงอาศัยจังหวะที่นักศึกษาหนุ่มหันหลัง กระโดดเข้าคว้าตัวนักศึกษาหนุ่มลงมาจากสะพานได้สำเร็จ ก่อนที่ตำรวจจะพาตัวไปที่ สภ.แม่โจ้ เพื่อสงบสติอารมณ์และติดต่อผู้ปกครองมาพูดคุยและรับตัว
นายวิทวัส ยอมรับว่า นาทีนั้นเกิดความกลัวว่าจะทำพลาด เพราะอาจทำให้น้องนักศึกษาตกลงไปด้านล่าง แต่เมื่อมาคิดดูแล้ว หากไม่ช่วยก็มีความเสี่ยงที่น้องนักศึกษาจะกระโดดลงไปเอง โอกาสรอดจะน้อยกว่า ประกอบกับสถานการณ์กดดัน เวลาบีบเข้ามาทุกขณะ จึงตัดสินใจปลอมตัวเข้าชาร์จ
นายวิทวัสบอกว่า แม้ที่ผ่านมาจะเคยผ่านการฝึกอบรมช่วยเหลือคนคิดสั้นฆ่าตัวตายมาก่อน และทำงานกู้ภัยมานานกว่า 10 ปี แต่ก็ไม่เคยมีประสบการณ์ที่ใกล้ชิดแบบนี้ ส่วนการปลอมตัวนี้ก็คิดเอาตามสถานการณ์หน้างาน และ ไม่เคยทำที่ไหนมาก่อน เมื่อช่วยได้ก็ดีใจที่น้องไม่เป็นอะไรเพราะสงสารพ่อแม่