สลด นร.สาว ม.3 โดดน้ำโขง หลังป่วยซึมเศร้ามานาน พ่อเผยเศร้าจุดก่อเหตุ

เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. วันที่ 23 ก.พ. ร.ต.อ.ชาติฉกรรจ์ สร้อยทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.หอคำ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ รับแจ้งจากชาวบ้านไคสี หมู่ที่ 5 ต.ไคสี อ.เมืองบึงกาฬ ว่าพบศพหญิงสาวลอยมาติดโขดหินบริเวณริมแม่น้ำโขงหน้าโรงงาน ถุงแก้วเทปกาว,ถุงแก้วฝากาว บ้านไคสี ตรวจสอบพร้อม พญ.ขวัญชนก จ้อยสำเภา แพทย์เวร รพ.บึงกาฬ และหน่วยกู้ภัยสว่างศรีวิไลจุดหอคำ

ที่ริมตลิ่งหน้าวัดพบศพหญิงสาวสภาพลอยน้ำคว่ำหน้า มีนายอรุณ (นามสมมติ) อายุ 50 ปี พร้อมกับญาติๆ ได้มาดูศพต่างก็ยืนยันว่าเป็นศพของ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ารักษามานานกว่า 3 ปี แต่ยังไม่หายขาด หลังจากชันสูตรพลิกศพเสร็จทางญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิต ตำรวจจึงได้มอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 19 ก.พ. ร.ต.อ.ธีระวิสิฏฐ์ จินจันดา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ รับแจ้งเหตุหญิงสาวกระโดดน้ำโขงฆ่าตัวตายที่หน้าลานพญานาค เทศบาลตำบลปากคาด ทราบชื่อ น.ส.เอ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามา 3 ปี กินยารักษาอาการอย่างต่อเนื่อง

โดย นายอรุณ (สงวนนามสกุล) บิดา เล่าว่า มาพักรักษาตัวอยู่กับบ้านญาติซึ่งเป็นบ้านปู่-ย่า ต.โนนศิลา อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ ลูกสาวขี่รถจักรยายนต์มาที่ริมโขงพร้อมเพื่อน แล้วบอกให้เพื่อนกลับบ้านไปก่อน อยากอยู่คนเดียว จะกลับบ้านจะโทรให้มารับอีกที หลังจากเพื่อนขี่รถคล้อยหลังไป น้องได้เดินลงไปริมน้ำ วางกระเป๋าสะพาย ซึ่งมีโทรศัพท์อยู่ด้านใน และถอดรองเท้าไว้ที่ริมตลิ่งก่อนจะกระโดดน้ำโขงที่มีความลึกกว่า 6 เมตรจมน้ำหายไป

เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อนจึงกลับมาตามหา พบเพียงแต่กระเป๋าสะพายและรองเท้าวางอยู่จึงมั่นใจว่าเกิดเหตุร้ายแน่ เพราะน้องเคยกระโดดน้ำหวังฆ่าตัวตายที่จุดนี้มาแล้ว แต่ครั้งนั้นโชคยังดีมีญาติที่ไปด้วยกระโดดลงน้ำช่วยได้ทัน

หลังเกิดเหตุครั้งนี้ หน่วยกู้ภัยสว่างศรีวิไลร่วมกับหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจากจังหวัดอุดรธานี และนักประดาน้ำของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงหรือ นรข.รัตนวาปี ระดมกันออกค้นหาร่างน้องเอ๋ตามลำแม่น้ำโขงติดต่อกันนานกว่า 4 วัน แต่ก็ยังไม่พบศพจนถึงเมื่อคืนผ่านมา

เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะอากาศยังหนาวเย็น ประกอบกับใต้น้ำโขงคงเย็นยะเยือก จึงทำให้ร่างของผู้ตายไม่ขึ้นอืดลอยโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ จนเวลาผ่านไปเข้าวันที่ 5 จึงได้พบศพดังกล่าว