เสี่ยรับซื้อขายกุ้งแม่น้ำผูกคอตาย ทิ้งจดหมายซัดธุรกิจล้มเพราะพิษเศรษฐกิจ

เสี่ยรับซื้อขายกุ้งแม่น้ำผูกคอตายใต้ต้นขนุน หลังไม่มีเงินจ่ายค่างวดรถ ทิ้งจดหมายซัดธุรกิจค้ากุ้งล้มเพราะพิษเศรษฐกิจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (2 ม.ค.) ร้อยตำรวจเอก ชนาธิป โอ่งเคลือบ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ผูกคอเสียชีวิตใต้ต้นขนุนหลังโรงงานผลิต เทปใส,เทปกาว แห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 10 ตำบลบ้านปรก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม

ที่เกิดเหตุเป็นสวนมะพร้าวแบบสวนผสมผสาน บริเวณใต้ต้นขนุนพบศพ นายฉลองชัย อายุ 54 ปี สภาพศพสวมเสื้อเชิ้ตลายสก็อตแขนสั้นสีชมพูขาว นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีเทา ผูกคอด้วยเชือกไนลอนสีแดงกับกิ่งต้นขนุน สูงจากพื้นประมาณ 3 เมตร คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง

ในกระเป๋าเสื้อด้านซ้ายพบกระดาษสมุดฉีกเขียนข้อความว่า “ธุรกิจค้ากุ้งล้มเพราะพิษเศรษฐกิจ หมดเงินก็หมดศักดิ์ศรี เราเป็นหนี้ไม่มีปัญญาใช้เขา เสียชีพดีกว่าเสียสัตย์ (แม่จ๋าพ่อลาก่อน)” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถาม นางสาวสมปอง อายุ 45 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า ตนอยู่กินกับผู้ตายมากว่า 10 ปี มีลูกชายด้วยกัน 1 คน เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสงคราม ประกอบอาชีพรับซื้อขายกุ้งแม่น้ำ

กระทั่งเมื่อปีก่อนพิษเศรษฐกิจทำให้กุ้งที่รับซื้อขายมาได้เสียหายเป็นจำนวนมาก จึงต้องเลิกรับซื้อขายกุ้งแม่น้ำ หันมาค้าขายหอยแมลงภู่ตามตลาดนัดต่างๆ

ต่อมาเมื่อ 2 เดือนก่อน รถปิกอัพที่ตนใช้เดินทางไปขายหอยแมลงภู่ก็ผุพัง ตนจึงถอยรถให้ใหม่ในราคา 600,000 บาท โดยเพื่อนเป็นคนดาวน์รถให้ ต้องผ่อนเดือนละ 6,000 บาท แต่ทั้ง 2 เดือนที่ผ่านมายังไม่ได้จ่ายค่างอดรถซักเดือน

ก่อนเกิดเหตุเมื่อเย็นวานนี้ ขณะที่กำลังนั่งรับประทานอาหารเย็นสามีก็พูดเปรยๆ ว่าถ้าพ่อเป็นอะไรให้ลูกชายบวชเณร แต่หากอยากเรียนก็ขอให้ไปอยู่กับป้า ก่อนที่ตนกับลูกจะเข้านอนตอน 3 ทุ่ม ซึ่งสามีของตนก็นั่งดูโทรทัศน์ตามปกติ และเมื่อเช้าตื่นขึ้นมาก็ไม่พบสามีจึงออกตามหาจนมาพบว่าสามีตนผูกคอเสียชีวิตแล้ว

จากการสอบสวน ทราบว่า ผู้ตายมีอาการเครียดจากภาวะพิษเศรษฐกิจทำให้ไม่มีเงินจ่ายค่างวดรถ เมื่อไม่มีทางออกจึงตัดสินใจผูกคอตายหนีปัญหา ซึ่งญาติไม่ติดใจเจ้าหน้าที่จึงมอบศพให้ญาติประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป